2010-02-17

ทักทายกันก่อนนะ

ข้าพเจ้าขอบอกก่อนเลยว่าตัวข้าพเจ้าเองเป็นลูกหลานชาวนาที่มาร่ำเรียนในเมือง เรียกว่าเป็นทายาทชาวนาเลยก็ว่าได้ มีมรดกที่ใคร ๆ ก็แย่งไปไม่ได้ นั่นคือ องค์ความรู้ด้านการเกษตรที่สั่งสมกันมานั่นเอง..สุดปลื้ม..

เพื่อน ๆ ที่เปิดเข้ามาอ่านบล็อกนี้ถามตัวเองก่อนว่า คุณเป็นลูกหลานชาวนาหรือเปล่า? ถ้าใช่ อ่านต่อได้เลย แต่ถ้าไม่ใช่ ก็ ลองอ่านต่อก่อนค่อยปิดหน้านี้นะจ๊ะ

สมัยนี้เรื่องของเงินทองสำคัญมากกว่าเรื่องของปากท้องซะอีก ลองสังเกตุดูนะ คนเรายอมอดข้าวมื้อสำคัญเพื่อที่จะทำงานหาเงิน คุณเป็นหนึ่งในนั้นหรือเปล่า? แล้วเคยคิดบ้างไหมว่าสิ่งที่จำเป็นที่สุดสำหรับตัวคุณแล้ว คือ การทุ่มเทร่างกายทำงาน หรือ การบำรุงดูแลร่างกายให้สมบูรณ์ กันแน่ เงินน่ะถ้าทำงานอยู่เขาก็ให้อยู่แล้ว ถ้าจะหักโหมก็อย่าลืมบำรุงตัวเองบ้างนะ คือว่าทำทุกอย่างให้สมดุลกันน่ะ อย่าให้ข้างใดข้างหนึ่งมันมากหรือน้อยไป แล้วมันเกี่ยวกับ Thailand farmer ยังไงเนี่ย ใจเย็นก่อนพี่น้อง กำลังจะบอกว่า เราต้องมีแรงและร่างกายที่พร้อมก่อน ถึงจะทำงานต่ออย่างมีความสุขได้...

จุดประสงค์ของบล็อกนี้ คือ การพยายามบอกกับทุกคนว่า เกิดมาเป็นชาวนาไม่น่าอาย จบปริญญาตรีแล้วทำนามันน่ายกย่องมากกว่าน่าอาย จบ ป.4 หรือไม่ได้เรียนหนังสือ ทำนา ก็ไม่น่าอาย จะมีประเทศไหนในโลกที่พระมหากษัตริย์ทรงเสด็จทำนา ปลูกข้าวให้ประชาชนคนธรรมดาดูและทำตาม แต่! คนที่ปฏิเสธถิ่นกำเนิดต่างหากที่น่าอาย!!! ลองคิดดูนะว่าคุณอยู่ในประเภทไหน

ข้าพเจ้าอยากจะแชร์ประสบการณ์กับเพื่อน ๆ เรื่องการทำอาชีพเกี่ยวกับการเกษตรว่ามีข้อมูลอะไรบ้างที่เราควรจะรู้เพื่อที่จะได้นำไปปรับปรุงหรือเป็นข้อมูลส่งเสริมอาชีพเกษตรกรไทย เรามาช่วยกันเด้อ...

สำหรับคนที่คิดจะเริ่มต้นทำ ปัจจัยหลัก ๆ ที่เป็นอุปสรรคข้าพเจ้าคิดว่า หลาย ๆ คนคงจะนึกถึง คือ

  1. ดิน
  2. น้ำ
  3. เงินทุน

สามปัจจัยนี้น่าจะเป็นหลักใหญ่ ๆ ในการเริ่มต้น เพราะข้าพเจ้าเชื่อว่าถ้าหากขาดข้อใดข้อหนึ่ง ปัญหาจะเพิ่มมากขึ้น คงไม่มีใครอยากอพยพจากถิ่นฐานบ้านเกิดไปทำงานที่อื่นหรอกถ้าไม่จำเป็น อยากจะปลูกผักปลูกหญ้าขาย ก็ต้องคอยฟ้าคอยฝน แต่ท้องมันไม่ยอมรอน่ะสิ ถึงเวลามันก็ร้องจะกินท้องเดียวยังพอว่า แต่นี่มันหลายคนหลายท้อง มันก็รอไม่ไหว ต้องถ่อสังขาน มาทำมาหากินที่อื่นเพื่อบรรเทาความหิว งานหนักก็เอา เบาก็สู้ ขอให้อิ่ม
แต่ถ้าที่ไหนมีปัจจัยทั้ง 3 ข้อนี้แล้ว คงไม่มีใครหรอก นั่งงอมืองอเท้าให้ท้องมันหิว เพราะโดยสันดานของชาวนาแล้ว ไม่มีคนไหนขี้เกียจ (อาจมีบ้างเป็นครั้งคราว แต่ไม่ใช่นิสัยถาวรแน่) เพราะลองมีดิน มีน้ำสิ ยังไม่ต้องมีเงินทุนก็ได้ ไม่รู้ว่าผักปลา มันมาจากไหนเต็มไปหมด ทั้งกิน ทั้งแจก ทั้งขาย แล้วรายได้ก็จะตามมาเป็นเงาเองแหละ ในขณะที่คนเมืองหาซื้อผักสดมากิน 10 บาท ก็ได้อย่างเดียว ซื้อ 50 บาท ขึ้นไป ถึงจะพอกินในครอบครัว แถมยังไม่รู้จะปลอดภัยหรือเปล่านะ เฮ้อ!!!!! ก็บอกแล้วเป็นเกษตรกรน่ะแสนวิเศษที่สุดแล้ว ฮ่า ๆ ๆ ๆ
ร่ายมาซะเยอะแล้วนะ ข้าพเจ้าอยากจะบอกทุกคนว่า ข้าพเจ้าจะพยายามหาข้อมูล วิธีแก้ปัญหาของปัจจัยทั้ง 3 ข้อ ข้างต้น มาแนะนำ เผยแพร่ เผื่อว่าจะเป็นความรู้ หรือหนทางแก้ไขให้กับท่านเกษตรกรหลาย ๆ ท่านบ้าง เผื่อว่ามีข้อไหนที่ตรงกับปัญหาของท่าน ก็ลองติดตามกันดูเด้อ... และ หรือ ใครที่อยากจะแชร์ข้อมูลก็ไม่ว่านะ ช่วยกันหลาย ๆ คน จะได้หาทางออกได้หลาย ๆ ทาง นะจ๊ะ

ว่าด้วยเรื่องของ ดิน และทางแก้ปัญหากันก่อนเลยนะ

No comments:

Post a Comment